แล้วนักวิเคราะห์รู้ได้อย่างไรว่า นักลงทุนที่เทขายนั้นมาจากประเทศไหน
ควรระวังและรับมืออย่างไรหากเกิด วิกฤตฟองสบู่
ทบทวนวัตถุประสงค์ในการลงทุน: ก่อนทำการลงทุนใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องทบทวนวัตถุประสงค์ของคุณ คุณลงทุนเพราะกลัวจะพลาดโอกาส หรือไม่ คุณกำลังไล่ตามผลตอบแทนที่รวดเร็วโดยไม่เข้าใจสินทรัพย์อย่างถ่องแท้หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น คุณอาจมีส่วนสนับสนุนให้เกิดฟองสบู่
ซึ่งถ้าไม่มีเหยื่อรายต่อไป ก็ให้รู้ไว้ว่า คนที่เป็นเหยื่อ ก็คือ ตัวเราเอง..
สรุปเรื่องที่ต้องรู้ก่อนลงทุน “แฟรนไชส์”
ถึงแม้สหรัฐจะยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำทางเศรษฐกิจ แต่จะไม่สามารถมีอิทธิพลได้เหมือนเดิม เพราะความเชื่อถือและความศรัทธาที่นานาชาติมีต่อสหรัฐเริ่มลดน้อยลง การซื้อขายระหว่างประเทศต่างๆแทนที่ตลาดสหรัฐจะมีมากขึ้น
วิกฤตการเงินของฝากฝั่งเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่หลายประเทศประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรงจากสภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ต่าง ๆ (ราคาสินทรัพย์พุ่งสูงขึ้นมากกว่าความเป็นจริง เพราะความคาดหวังที่ล้นเกิน)
ลดภาระหนี้ เช่น ผ่อนสินเชื่อในอัตราที่หนักเกินกว่ารายได้หรือเงินสำรองที่มี ควรมองหาช่องทางปลดหนี้ด้วยการปรับเปลี่ยนให้หนี้ลดลง เปลี่ยนที่อยู่อาศัยจากบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ เป็นคอนโดมิเนียมในทำเลที่เหมาะต่อการสัญจร เพราะคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มจะขายได้ง่าย และเป็นการลงทุนที่คล่องตัวกว่าบ้านจัดสรร
นักลงทุนจะขายหุ้นแล้วนำเงินที่ได้มาพักไว้ในพันธบัตรสหรัฐ แต่ครั้งนี้ นักลงทุนกลับขายทั้งหุ้นและพันธบัตรออกไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ในการลงทุน ไม่มีอะไรแน่นอน แม้ปัจจัยพื้นฐานจะดี แต่ตลาดย่อมมีวัฏจักรขึ้นลงอยู่เสมอ ดังนั้นนักลงทุนควรจะมีแผนบริหารความเสี่ยงเอาไว้ด้วยเช่นกัน
อ่านมาจนถึงตอนนี้ เราก็อาจจะเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วว่า เฮ้ย! หรือว่า ฟองสบู่กำลังจะแตกจริง ๆ ?
Analytical cookies are utilized to understand how site visitors communicate with the web site. These cookies assistance provide information on metrics the volume of visitors, bounce amount, visitors source, and so forth.
มีบริษัทไหนล้มหายตายจากไป และมีบริษัทไหนที่ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้บ้าง?
พฤติกรรมที่ดูเกินจริงที่กระตุ้นให้เกิดการพุ่งสูงขึ้นนี้มักเกิดจากอคติทางการเงิน ความคิดแบบหมู่คณะทำให้บุคคลเดินตามผู้อื่นเข้าสู่ตลาดโดยไม่เข้าใจการลงทุนอย่างถ่องแท้ view การคิดในระยะสั้นจะเน้นที่ผลตอบแทนทันที โดยนักลงทุนเชื่อว่าพวกเขาสามารถออกจากตลาดได้ก่อนที่ตลาดจะเกิดการล่มสลาย ความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งผู้คนจะเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนและยอมรับเฉพาะข้อมูลที่ยืนยันความเชื่อของตนเท่านั้น ยิ่งทำให้ฟองสบู่ขยายตัวมากขึ้น ปัจจัยทางจิตวิทยาเหล่านี้สร้างวัฏจักรที่ไม่ยั่งยืน ซึ่งท้ายที่สุดจะสิ้นสุดลงด้วยการปรับฐานตลาดอย่างกะทันหันเมื่อฟองสบู่แตก